เรื่องย่อกลบทสิริวิบุลกิติ
ท้าวยศกิติครองเมืองจัมปาก มีมเหสีมีนามว่าศิริมดี
แต่ไม่มีโอรสธิดา
บรรดาเสนาอำมาตย์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ได้พากันมาเฝ้าขอให้ทรงหาทางที่จะมีผู้สืบราชสมบัติ
ท้าวยศกิติจึงรับสั่งแก่มเหสีและบรรดาสนมหมื่นหกพันนางว่า
หากใครมีโอรสก็จะได้เลื่อนฐานะเป็นเอกอัครมเหสี นางศิริมดีได้สมาทานศีลและตั้งสัจอธิษฐานว่าหากรักษาศีลได้ไม่บกพร่องขอให้ได้มีโอรส
ทำให้แท่นบัณฑุกัมพลของพระอินทร์สั่นไหวและร้อนขึ้น
พระอินทร์จึงไปอัญเชิญพระโพธิสัตว์ให้จุติลงมาปฏิสนธิในครรภ์ของนาง
นางศิริมดีนอนหลับและฝันว่าดาบสจากเขาวิบูลบรรพตนำแก้วมาถวาย
แก้วนี้มีรัศมีโชติช่วง นางศิริมดีได้เล่าความฝันให้ท้าวยศกิติฟัง
ท้าวยศกิติรับสั่งให้โหรทำนาย โหรทูลว่านางจะมีโอรสที่มีเกียรติยศสูงยิ่ง
แต่นางจะต้องพลัดพรากจากบ้านเมือง พลัดพรากจากสามีและบุตรและเสียชีวิตด้วย
ส่วนท้าวยศกิติก็สละราชสมบัติออกจากเมืองไป ต่อมากษัตริย์อีกเมืองหนึ่งไม่ปรากฏนาม
ทราบว่าท้าวยศกิติเป็นกษัตริย์ที่มุ่งแต่รักษาศีลบำเพ็ญกุศล จึงยกทัพมาล้อมเมือง
ท้าวยศกิติเห็นว่าถ้าสู้รบกันก็จะสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย
จึงสั่งสอนเสนาอำมาตย์ให้ละโลภะ โทสะ โมหะ ยึดมั่นในพระรัตนตรัย
แล้วกล่าวอำลานางศิริมดีออกป่าไปบวชเป็นฤาษี นางศิริมดีขอตามไปด้วย
ทั้งคู่พากันไปบวชอยู่ในป่า กษัตริย์ที่มายึดเอาเมืองจัมปากได้ประกาศว่าถ้าผู้ใดทราบที่อยู่ท้าวยศกิติจะให้รางวัล
ทำให้ท้าวยศกิติถูกทำร้ายและจับตัวไปขัง
ฝ่ายนางศิริมดีคลอดบุตรเป็นชายรูปร่างงดงาม จึงตั้งชื่อโอรสตามชื่อตนกับสามีว่า สิริวิบุลกิติ เมื่อโตขึ้นนางศิริมดีเล่าเรื่องให้ฟัง สิริวิบุลกิติได้ลามารดาเพื่อไปช่วยท้าวยศกิติเมื่อไปถึงท้าวยศกิติกำลังจะถูกประหารชีวิต สิริวิบุลกิติเข้าไปขอให้เพชฌฆาตประหารตนแทน
เกิดเหตุมหัศจรรย์เมื่อเพชฌฆาตจะใช้ดาบประหารสิริวิบุลกิติดาบก็หัก
เพชฌฆาตได้รับคำสั่งให้นำช้างไปเหยียบ ช้างกลับหันหน้าหนีไม่ยอมเหยียบ
เพชฌฆาตได้รับคำสั่งให้ขุดหลุมและจุดไฟเผาสิริวิบุลกิติในหลุม
ก็ปรากฏว่ามีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ
เพชฌฆาตได้รับคำสั่งให้นำสิริวิบุลกิติไปทิ้งลงเหว ด้วยบุญญานุภาพที่สร้างสมไว้
พญานาคจึงยกทัพมาช่วย แผ่นดินได้แยกเป็นช่องสูบเจ้าเมืองผู้โหดร้ายลงไปในนรกอเวจี
ท้าวยศกิติได้มอบราชสมบัติให้โอรส สิริวิบุลกิติกลับไปป่าเพื่อรับมารดา
แต่นางศิริมดีเศร้าโศกเสียใจจนเสียชีวิตไปก่อน
ที่มา: https://www.google.com/urlsa=i&url=https%3A%2F%2Fwww
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น